รมช.มนัญญา เปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรพัฒนาศักยภาพผู้บริหารเพื่อการบริหารงานสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ขับเคลื่อนงานสหกรณ์ระดับพื้นที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตสมาชิกและเกษตรกรให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
จันทร์ที่ 15 มีนาคม 2564 เวลา 14.41 น.
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส หลานหลวง กรุงเทพฯ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร เพื่อการบริหารงานสำนักงานสหกรณ์จังหวัด” พร้อมมอบนโยบาย “การส่งเสริมสหกรณ์ ภายใต้บริบทใหม่” ให้กับสหกรณ์จังหวัด และเจ้าที่หน้าของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า การจัดฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้พัฒนาองค์ความรู้ ทัศนคติ และเกิดความพร้อมสําหรับการบริหารงานส่งเสริมสหกรณ์ ให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งจะสร้างความเข้าใจในทิศทางการขับเคลื่อนงานเพื่อผลักดันสหกรณ์ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสังคมของประเทศ และพร้อมบริหารงานด้านส่งเสริมสหกรณ์ ผลักดันให้สหกรณ์มีความเข้มแข็ง มีธรรมาภิบาล สามารถพึ่งพาตนเองได้
รมช.มนัญญา กล่าวอีกว่า ภารกิจสําคัญของสหกรณ์จังหวัด จะต้องมีความรอบรู้ มีความพร้อมสําหรับการปฏิบัติงานอยู่เสมอ และเข้าใจหลักการบริหารอย่างแท้จริง ทั้งบุคลากรในองค์กร บริหารงบประมาณที่ได้รับอย่างจํากัดให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด บริหารแผนงานโครงการให้บรรลุเป้าหมายตัวชี้วัด และบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีอยู่จํากัด ให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียม เพื่อส่งผลให้การส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยนโยบายสำคัญที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโดยใช้กลไกสหกรณ์เข้ามาช่วยดูแลความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกร
น.ส.มนัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักในการจัดฝึกอบรมฯ เป็นสหกรณ์จังหวัดจาก 36 จังหวัด ประกอบด้วย กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี นราธิวาส ปัตตานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ลําปาง นครสวรรค์ อุทัยธานี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ เลย หนองบัวลําภู มหาสารคาม ยโสธร เชียงใหม่ ลําพูน เพชรบูรณ์ นครนายก อ่างทอง ระนอง ยะลา พังงา สตูล บึงกาฬ แม่ฮ่องสอน มุกดาหาร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ตราด สิงห์บุรี และภูเก็ต กําหนดจัดระหว่างวันที่ 15–17 มี.ค. 2564 รวม 3 วัน ณ โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส กรุงเทพฯ
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%