สยามรัฐออนไลน์
15 มีนาคม 2564 23:58 น.
ข่าวทั่วไทย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 มี.ค.64 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษรตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเลิงนกทา โดยมีนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร, ห้วหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมต้อนรับและนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเลิงนกทา
โดย รมช.เกษตรและสหกรณ์ได้ติดตามผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ โคกภูพระ ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา ที่นางถาวร ธนะสิงห์ ร้องขอให้ชะลอการออก นสล.ที่สาธารณประโยชน์โคกภูพระ ที่ขึ้นทะเบียนที่สาธารณประโยชน์ เมื่อ พ.ศ.2491 เนื้อที่ 150 ไร่ และในปี พ.ศ.2526 ได้ทำการรังวัดออก นสล.ได้เนื้อที่ 233 ไร่เศษ ต่อมาในปี 2541 มี พรก.กำหนดท้องที่ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา เป็นเขตปฎิรูปที่ดิน และส่วนหนึ่งอยูในพื้นที่ที่นางถาวร เข้าไปทำประโยชน์ จึงเกิดกรณีพิพาท ในปี พ.ศ.2544-2553 ได้มีการฟ้องร้องเป็นคดีแพ่ง โดยนายอำเภอเลิงนกทา เป็นโจทก์ฟ้องนางถาวร ธนะสิงห์ และศาลพิจารณาว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ จึงให้จำเลยออกจากพื้นที่พิพาท เนื้อที่ 29 ไร่เศษ และในปี พ.ศ.2548-2549 นางถาวร ได้ยื่นฟ้อง อบต.กุดแห่ ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้คืนที่ดินและให้เพิกถอนที่สาธารณประโยชน์โคกภูพระ แต่ศาลไม่รับคำฟ้อง
ปัจจุบัน สำนักงานที่ดินสาขาอำเภอเลิงนกทา กำลังทำการรังวัดแนวเขต เพื่อออก นสล.ตามคำร้องของอำเภอเลิงนกทาและเทศบาลตำบลกุดแห่ เมื่อออก นสล.ได้แล้ว สปก.ยโสธร จึงจะได้เข้าไปดำเนินการจัดที่ดินที่อยู่นอกเขต นสล.และอยูในเขตปฎิรูปที่ดินให้ เกษตรได้ทำประโยชน์ต่อไป
ส่วนกรณีที่สาธารณประโยชน์โคกปออีกว้าง บ้านกุดแข้ด่อน ตำบลกุดเชียงหมี อำเภอเลิงนกทา ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์เมื่อปี พ.ศ.2491 เนื้อที่ 1,600 ไร่และนายอาทิตย์ สังขะสี ร้องขอให้ชะลอการออก นสล.ที่สาธารณประโยชน์ ต่อมาปี พ.ศ.2526 ได้มีการรังวัด เพื่อออก สนล.ได้เนื้อที่ประมาณ 294 ไร่เศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่นายสมศักดิ์ และบริวาร เข้าไปทำประโยชน์ ในปี พ.ศ.2541 มี พรก.กำหนดเขตปฎิรูปที่ดินในพื้นที่ตำบลกุดเชียงหมี ต่อมาในปี พ.ศ.2541-2549 อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายนายชู สังขะสี สมศักดิ์ สังขะสีและนายวาสี ศรีอุบล พร้อมบริวาร ให้ออกจากที่สาธารณประโยชน์ โคกปออีกว้าง เนื้อที่ 147 ไร่ ต่อมาปี พ.ศ.2555-2560 นายสมศักดิ์ ได้ยื่นฟ้องนายกเทศมนตรีตำบลกุดเชียงหมีและนายอำเภอเลิงนกทา ต่อศาลปกครอง อุบลราชธานี ซึ่งศาลพิพากษาว่าผู้ถูกฟ้องปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ โดยการดำเนินคดีกับผู้บุกรุก และปัจจุบันอยู่ระหว่างการรังวัดแนวเขตเพื่อออก นสล. ทั้งนี้หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่าที่ดินไม่มีสภาพเป็นป่าและประชาชนเลิกใช้ประโยชน์ร่วมกันแล้ว ควรเพิกถอนที่สาธารณประโยชน์โคกปออีกว้าง ตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของทางราชการและประชาชนที่ถือครองที่ดิน ทั้งนี้จะมีการสำรวจและพิสูจน์การได้มาของเอกสารการครอบครองที่ดินดังกล่าวอีกด้วย
และในโอกาสนี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรธปที่ดิน (สปก4-01) จำนวน 20 ราย มอบบัตรดินดี ให้เกษตรกร 10 รายและมอบเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ให้เกษตรกรอีก 10 รายอีกด้วย