วันที่ 30 มีนาคม 2564 นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้มาเร็วและรุนแรงมาก ส่งผลกระทบกับประชาชนหลายพื้นที่ของประเทศ ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดยโสธร เกษตรกรได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างรุนแรง หลายพื้นที่ไม่มีน้ำทำการเกษตร ในขณะเดียวในบางพื้นที่ของยโสธร ปริมาณลดลงจนส่งผลกระทบกับน้ำอุปโภค บริโภคแล้ว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงได้รับความเดือดร้อน ที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับภัยแล้ง แต่ไร้ประสิทธิภาพ รัฐบาลใช้งบประมาณแก้ภัยแล้งหลายหมื่นล้านบาท แต่ผลที่ได้ล้มเหลวไม่สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งได้ ปัจจัยสำคัญคือ การทำงานที่ไร้แผนงาน ไร้วิสัยทัศน์ รัฐทุ่มงบประมาณในการขุดลอกคูคลอง แต่ไม่ได้วางแผนว่าจะเติมน้ำได้อย่างไร ดังนั้นจึงขุดลอกทั้งๆที่ไม่มีน้ำ จึงเป็นการใช้งบประมาณที่สูญเปล่าของรัฐบาล
นายปิยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังประชาชนในพื้นที่ พบว่ามาตรการจ่ายเงินเยียวยาที่รัฐบาลจัดให้ บางส่วนเข้าไม่ถึงการเยียวยา รวมทั้งบางกลุ่มที่ได้ก็ไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพราะคนทีได้ส่วนใหญ่มีฐานะดีเข้าถึงเทคโนโลยี คนที่เข้าไม่ถึงก็ไม่มีทางได้ หากอยากได้เงินเยียวยาต้องนั่งรถเกินกว่า 20 กิโลยืนรอที่ธนาคารเพื่อดำเนินการ เสียเวลาทั้งวัน ดังนั้นเงินที่รัฐบาลให้มาก็เยียวยาไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน
“ประชาชนในพื้นที่อยากได้น้ำทำการเกษตรมากกว่า ทุกพื้นที่เห็นตรงกันว่า รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณ เพื่อเจาะบ่อน้ำบาดาล บรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร เติมน้ำในพื้นที่การเกษตรเพื่อให้ประชาชนมีน้ำนำนา ทำการเกษตร ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ ควรที่จะเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนมากกว่า จัดการกับคนที่เห็นต่าง ไม่ควรฟังแต่คำประจบสอพลอเพราะรัฐบาลจะพังเพราะคำเยินยอในที่สุด”นายปิยวัฒน์ กล่าวในที่สุด