วันนี้ ( 8 เม.ย. 64 ) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) เปิดเผยถึงการติดเชื้อในประเทศ 391 คน ว่า พบใน 29 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร 9 คน กทม. 95 คน ปทุมธานี 8 คน ชลบุรี 14 คน ระยอง 1 คน สมุทรปราการ 23 คน นราธิวาส 146 คน นนทบุรี 18 คน นครปฐม 6 คน พระนครศรีอยุธยา 2 คน สุพรรณบุรี 2 คน สระแก้ว 14 คน เชียงใหม่ 6 คน ฉะเชิงเทรา 1 คน ประจวบคีรีขันธ์ 14 คน ขอนแก่น 3 คน สุราษฎร์ธานี 1 คน ชัยภูมิ 2 คน อุดรธานี 7 คน ภูเก็ต 3 คน สงขลา 2 คน ลำปาง 1 คน ชุมพร 3 คน พิษณุโลก 4 คน นครศรีธรรมราช 1 คน หนองบัวลำภู 1 คน บุรีรัมย์ 2 คน เชียงราย 1 คน ยโสธร 1คน
ขณะที่การสอบสวนโรคคลัสเตอร์สถานบันเทิง พบผู้ติดเชื้อ 504 คน กระจายใน 20 จังหวัด โดย กทม.พบผู้ติดเชื้อสูงสุด 356 คน ชลบุรี 31 คน สมุทรปราการ 28 คน สระแก้ว 20 คน สุพรรณบุรี 18 คน นนทบุรี 16 คน ส่วนจังหวัดที่เหลืออีก 14 จังหวัดมีผู้ติดเชื้อเป็นหลักหน่วย จึงเสนอมาตรการคุมการสำหรับสถานบันเทิง โดยพุ่งเป้าตรวจหาเชื้อในกลุ่มพนักงานให้ทั่วถึง และเสนอจัดตั้งคลินิกโควิดนิรนาม ตรวจหาเชื้อและให้พนักงานมีผลตรวจก่อนอนุญาตเปิดสถานบริการ รวมทั้งเสนอให้เพิ่มบทลงโทษ กรณีพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนซ้ำในสถานบันเทิงเดิมในช่วง 3 เดือน ให้ปิดสถานบันเทิงนั้นๆ อย่างน้อย 60 วัน เพื่อค้นหาสาเหตุการระบาดซ้ำและปรับปรุงโครงสร้าง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าสำหรับการระบาดเป็นวงกว้าง ทำให้ได้รับรายงานโรงพยาบาลมีความแออัดเกิดขึ้น และมีความต้องการใช้เตียงมากขึ้น ทั้งรพ.ของภาครัฐและเอกชน ถ้าเตียงไม่พอได้มีแผนขอขยายเตียงเพิ่มขึ้น หากไม่เพียงพออีกจะใช้โรงแรมที่ ASQ เป็นสถานที่ให้บริการทางการแพทย์ และหลายจังหวัดได้เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลสนาม อีกทั้งการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ ทำให้การรักษาในโรงพยาบาลใช้เวลายาวนานขึ้นกว่าเดิม ซึ่งใช้เวลารักษาประมาณ 10 วัน
“ขณะนี้ได้เร่งสอบสวนโรคกรณีพบการระบาดของโควิดสายพันธุ์อังกฤษ ว่าเข้ามาจากเส้นทางใด จึงเข้าสู่ใจกลางเมืองและเกิดการระบาดขึ้น อาจเป็นการพบเชื้อหลังการกักตัว 14 วัน หรือกรณีอื่นๆ ซึ่งต้องหาคำตอบให้ได้” โฆษก ศบค.ระบุ