20 ก.ย. 64 เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ร.ต.อ.ศุภทณ เวฬุวนาธรณ์ ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถกระบะและมีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยเหตุเกิดที่ถนนเจ้าเสด็จ ก่อนถึงสี่แยกนาสะไมย์ พื้นที่ตำบลนาสะไมย์ อ.เมือง จ.ยโสธร จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ EMS จากโรงพยาบาลยโสธร
โดยในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตรงมี 2 ช่องจราจร และถนนบริเวณดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างซ่อมแซมถนนใหม่ บริเวณกลางถนนพบศพของ นายไทยรัฐ อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งผู้ตายเป็นคนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างถนนช่วงที่เกิดเหตุจุดดังกล่าว ส่วนใกล้กันยังพบรถเก๋งสีขาว สภาพด้านหน้ารถพังเสียหายยับตกลงไปข้างทางฝั่งขวามือ โดยมี สิบเอก ประทุม อายุ 46 ปี เป็นคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ยืนหน้าตาตื่นรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ และห่างออกไปอีกเล็กน้อยยังพบรถกระบะ 4 ประตูสีดำ ตกลงไปข้างทางฝั่งซ้ายใ นสภาพด้านท้ายรถมีร่องรอยถูกชนจนได้รับความเสียหายยับเช่นกัน ส่วนที่บริเวณพื้นถนนยังพบว่า มีเครื่องปั่นไฟและอุปกรณ์เจาะพื้นถนนตกกระจัดกระจายอยู่
จากการสอบถาม เพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า พวกตนเป็นคนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่กำลังดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมถนนช่วงดังกล่าว และก่อนเกิดเหตุตนกับผู้ตายได้พากันขับรถกระบะคันดังกล่าวไปสำรวจพื้นถนนจุดที่กำลังมีการก่อสร้าง โดยได้จอดรถกระบะเอาไว้บริเวณเลนซ้ายมือ และได้มีการนำกรวยยางไปวางเป็นแนวกั้นไว้ด้านท้ายรถกระบะ จากนั้นได้นำอุปกรณ์เครื่องเจาะไปเจาะพื้นถนนบริเวณด้านท้ายรถกระบะ โดยผู้ตายเป็นคนเจาะและในระหว่างที่เจาะเสร็จ ผู้ตายจึงนำตลับเมตรไปวัดความหนาของพื้นถนนโดยหันหลังให้กับรถเก๋ง แล้วจู่ๆ ก็มีรถเก๋งคันก่อเหตุวิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งชนผู้ตายอย่างแรง จนร่างผู้ตายกระเด็นไปไกลเสียชีวิตคาที่ จากนั้นรถเก๋งยังได้พุ่งไปชนท้ายรถกระบะของพวกตนที่จอดอยู่อย่างแรงจนกระเด็นตกลงไปข้างทางได้รับความเสียหายไปอีก แต่ตนยังโชคดีที่กระโดดหลบได้ทันจึงปลอดภัย
ขณะที่ สิบเอกประทุม คนขับรถเก๋ง บอกว่า ตนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุไปตามลำพังคนเดียวจากตัวเมืองยโสธรเพื่อมุ่งหน้าไป อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เพื่อไปรับแฟน แต่พอไปถึงจุดเกิดเหตุ ตนมองไม่เห็นว่ากำลังมีคนงานกำลังทำงานอยู่กลางถนน จึงทำให้รถของตนพุ่งชนคนงานที่กำลังทำงานอยู่อย่างแรงจนเสียชีวิต และรถของตนยังพุ่งไปชนท้ายรถกระบะที่จอดอยู่อีกคันจนได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่ตนไม่ได้รับบาเจ็บแต่อย่างใด
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เชิญตัวคนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่างละเอียดต่อไป ก่อนจะได้แจ้งข้อหาคนขับรถเก๋ง ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายต่อไป
