เร่งให้ข้อมูลประชาชนเรื่องการรับวัคซีน รวมถึงอาจมีการจัดจุดวอล์กอิน เพื่อรับวัคซีน เน้นย้ำการฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวให้มีการฉีดให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงแรงงานที่เข้าไปทำงานเผยมี 10 จังหวัดรับวัคซีนเข็ม 1 ต่ำ นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร สุรินทร์ แม่ฮองสอน ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ สกลนคร เชื่อเพราะไม่ใช่พื้นที่ระบาด จึงไม่ตระหนัก ส่วน 43 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนมากกว่า 50% แล้วหวังว่าจะสามารถเร่งรัดให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมไป 70 % ได้โดยเร็ว
19 พ.ย.2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยอดการฉีดวัคซีนของไทย 87.6 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็ม 1 ฉีดแล้ว 46.2 ล้านโดส หรือคิดเป็น 64.2% เข็ม2 ฉีดแล้ว 38 ล้านโดส คิดเป็น 53.3% ส่วนเข็ม 3 ฉีดไปแล้ว 2.9ล้านโดส หากจะให้ครบตามเป้า 100 ล้านโดส ยังต้องเร่งฉีดอีก 12.4 ล้านโดส พร้อมเน้นย้ำการฉีดวัคซีนในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวให้มีการฉีดให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงแรงงานที่เข้าไปทำงานอีกด้วยเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันหมู่
ส่วน 10 จังหวัด ที่มีการรับวัคซีนต่ำ โดยคาดว่าสาเหตุมาจากอาจไม่ใช่พื้นที่ระบาด จึงไม่ได้ไปรับวัคซีนได้แก่ นครพนม หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร สุรินทร์ แม่ฮองสอน ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ สกลนคร และมีถึง 43 จังหวัดที่ได้รับวัคซีนมากกว่า 50% แล้ว และหวังว่าจะสามารถเร่งรัดให้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมไป 70 % ได้โดยเร็ว ส่วนการฉีดวัคซีนใน ผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง พบว่าฉีดเกิน 80% ใน 6 จังหวัด คือ ปทุมธานี นครพนาม สกลนคร กรุงเทพ เชียงใหม่และสมุทรปราการ จะเห็นว่า นครพนม แม้ภาพรวมเข็ม 1 จะต่ำ แต่ปรากฎว่าในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้รับวัคซีนสูง
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการเร่งรัดในการรับวัคซีนให้เพิ่มจำนวนมากขึ้น ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประชุมระดมสรรพกำลังตรวจสอบหาสาเหตุ และเร่งให้ข้อมูลประชาชนเรื่องการรับวัคซีน รวมถึงอาจมีการจัดจุดวอล์กอิน เพื่อรับวัคซีนด้วย ส่วนอัตราการติดเชื้อนับตั้งแต่มีการเปิดประเทศ 1พ.ย.-18พ.ย.64 มีผู้เดินทาง เข้ามาด้วยระบบเทสแอนด์โก 51,558 คน พบมีการติดเชื้อ 41 คน คิดเป็น 0.08% ถือว่าติดเชื้อต่ำ และการดำเนินการมีความปลอดภัย โดยมีประเทศที่ เดินทางเข้าไทยมากสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 9,461 คน รองลงมา เยอรมัน 7,401 คน สหราชอาณาจักร 3,449 คน