ยโสธร เปิดสนามบินเก่าให้ชาวนานำข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วไปตากแดดที่บริเวณลานรันเวย์สนามบินเก่าที่เลิกใช้ให้ชาวนานำข้าวไปตากแทนตามถนนเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน
วันนี้ (23 พฤศจิกายน) หลังจากที่มีข่าวในหลายจังหวัดเกี่ยวกับการนำข้าวเปลือกไปตากแดดตามถนน จนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน กีดขวางการจราจรปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน รวมทั้งเกิดเหตุการณ์ลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้นั้น ดังนั้นในพื้นที่จังหวัดยโสธร จึงได้มีชาวนาหลายคนที่กำลังพากันเก็บเกี่ยวข้าวก็ต่างหาสถานที่ ที่ปลอดภัยในการนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขายเพื่อให้ได้ราคาที่สูง
โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร และอีกหลายตำบลใกล้เคียงกันต่างพากันนำข้าวเปลือกของตนที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดเอาไว้ที่ บริเวณลาดจอดเครื่องบินและรันเวย์ภายในสนามบินกองทัพบก เลิงนกทา ซึ่งตั้งอยู่พื้นที่ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ยโสธร
ซึ่งเป็นสนามบินเก่าที่มีการก่อสร้างมาตั้งปี พ.ศ. 2506 สมัยสงครามเวียดนาม โดยทหารสหรัฐอเมริกา ร่วมกับพันธมิตรอังกฤษ,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามบินสำรองให้กับเครื่องบินที่ถูกยิงขัดข้องได้ลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุด แต่ปัจจุบันได้เลิกใช้งานไปแล้วและกองทัพบกเป็นผู้ดูแล ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินและรันเวย์ยังคงอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ ชาวนาที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจึงได้ขออนุญาตหน่วยทหารที่ดูแลและนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขาย แทนการนำข้าวเปลือกไปตากเอาไว้ตามถนนเหมือนพื้นที่อื่นเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยในแต่ละวันก็จะมีชาวนาพากันนำข้าวไปตากที่สนามบินแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ 100 ราย สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆและจะใช้ระยะเวลาตากข้าวคนละประมาณ 2-3 วัน ก็จะพากันขนย้ายข้าวเปลือกที่แห้งสนิทกลับบ้านไปและส่งขายเป็นรายได้บางส่วน แต่ในช่วงกลางคืนชาวนาก็จะไปนอนเฝ้าข้าวของตนที่ตากเอาไว้ทุกคืนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพเข้าไปลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้
ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ยโสธร
นางทองสุข มาดายัง อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 10 ตำบลโคกสำราญ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร ชาวนา บอกว่า ในวันนี้ตนพร้อมญาติพี่น้องได้พากันนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดไล่ความชื้นเอาไว้ที่บริเวณลานจอดภายในสนามบินเก่าแห่งนี้ ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาก็จะนำข้าวเปลือกไปตากที่สนามบินแห่งนี้ทุกปีเพราะเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมจึงได้ขออนุญาตจากหน่วยทหารที่ดูแลสนามบินขอนำข้าวเปลือกเข้าไปตากแดดแทนการนำไปตากบนถนนที่อันตรายและผิดกฎหมาย
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีชาวนาในละแวกใกล้เคียงสนามบินเก่าแห่งนี้หลายตำบลที่ได้พากันนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดภายในสนามบินแห่งนี้เป็นจำนวนมากในแต่ละวันและจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปตากข้าวอย่างต่อเนื่องทุกวันโดยแต่ละคนจะใช้ระยะเวลาตากข้าวประมาณ 2-3 วัน ก็จะขนข้าวที่แห้งสนิทกลับบ้านและนำไปขายต่อไป ส่วนในช่วงกลางคืนก็จะมีชาวนาไปนอนเฝ้าข้าวของตนที่ตากเอาไว้เพื่อป้องกันคนไปลักขโมยข้าวเปลือก
ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ยโสธร
ภาพจาก ผู้สื่อข่าว จ.ยโสธร