เฉลยแล้ว กลุ่มชายฉกรรจ์บุกค้นบ้าน เป็นตำรวจจริง จ.ยโสธร

เจาะประเด็นข่าว 7HD – ความคืบหน้ากรณีเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ที่จังหวัดยโสธร เป็นงง เมื่อมีชายฉกรรจ์ 5 คน แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ บุกค้นบ้านพัก ทั้ง ๆ ที่ในบ้านไม่มีใครอยู่ ตั้งข้อสงสัยใช่ตำรวจจริงหรือไม่ ผู้กำกับการ สภ.เมืองยโสธร ยอมรับชายฉกรรจ์ทั้งหมดเป็นตำรวจจริง โดยเป็นการเข้าค้นเป้าหมายตามคำซัดทอดของผู้ต้องหาคดียาเสพติด

กล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่ง ที่ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมืองยโสธร บันทึกภาพชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน แต่งตัวคล้ายกับตำรวจนอกเครื่องแบบเดินมาที่หน้าบ้าน จากนั้นก็บุกเปิดประตูรั้วเข้าไปเดินสำรวจภายในบริเวณบ้านก่อนจะเดินออกจากบ้านไป เหตุเกิดช่วง 15.43 น. ของวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน แต่เจ้าของบ้านเปิดกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ทำให้รู้สึกตกใจกลัว เกรงชีวิตจะไม่ปลอดภัย จึงนำคลิปดังกล่าวโพสต์ลงเฟซบุ๊กถึงผู้กำกับ ผู้บังคับบัญชา และท่านผู้การ สภ.เมืองยโสธร เปิดบ้านเข้าไปแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีคนอยู่บ้าน และไม่ได้อนุญาตจากเจ้าของบ้าน บ้านเราไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย พวกคุณไม่มีหมายค้น พวกคุณบุกรุกเข้าไปแบบนี้โดยที่ไม่มีใครอยู่เลยมันได้เหรอ แล้วถ้าบ้านเราไม่มีกล้องวงจรปิด เราจะรู้ไหมว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ มันไม่น่ารักเลย

หญิงอายุ 40 ปี เจ้าของบ้านบ้านเปิดใจกับทีมข่าว ยอมรับว่าประมาทที่ไม่ได้ปิดล็อกกลอนประตูบ้าน เนื่องจากบ้านดังกล่าวเป็นบ้านสวนปลูกไว้สำหรับเป็นที่เลี้ยงวัว, เป็ดและไก่ โดยจะมีญาติคอยช่วยดูแลให้ จึงแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับชายฉกรรจ์ทั้งหมด ข้อหาบุกรุก

ประเด็นนี้ พันตำรวจเอก มังกร กวีกรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองยโสธร ชี้แจงว่าชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปในบ้านเป็นตำรวจจริงทั้ง 5 นาย ปฏิบัติหน้าที่ชุดสืบสวน โดยเป็นการเข้าตรวจค้นเป้าหมายตามคำซัดทอดของหนึ่งในผู้ต้องหาคดียาเสพติด ประกอบกับมีข้อมูลว่าผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวมีประวัติถูกจับกุมคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงเข้าตรวจสอบเพื่อกวาดล้างการระบาดของยาเสพติดในชุมชน

สำหรับปฏิบัติงานดังกล่าวเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจรอหมายค้นจากศาลได้ เพราะเกรงว่าผู้ต้องสงสัยอาจจะไหวตัวหลบหนี ประกอบกับประตูรั้วบ้านหลังเกิดเหตุเปิดแง้มไว้ และในบ้านก็มีรถยนต์ รวมถึงรถจักรยานยนต์บุคคลต้องสงสัยจอดอยู่ด้วย แต่เมื่อเข้าไปสำรวจตรวจสอบแล้วไม่พบตัวเป้าหมาย จึงถอนกำลังออกมา ยืนยันไม่ได้ทำอันตรายต่อทรัพย์สินภายในบ้านให้เสียหาย สูญหายหรือเสื่อมค่า แต่ทั้งนี้จะได้เรียกตำรวจทั้ง 5 นาย มาสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ร้องทุกข์ด้วย