พระพยอมชี้หลวงตาล้วงกอดสีกา เป็นเมตตาแบบอวิชชา ร่วมกันฆาตกรรมพระธรรมวินัย เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แก้ตัวไม่ขึ้น ผู้รู้หย่อมตำหนิติเตียน
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
จากกรณีเจ้าอาวาสอายุ 100 ปี สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในยโสธร มีพฤติกรรมลวนลามหญิงสาวด้วยการโอบกอด จับหน้าอก จับอวัยวะเพศ โดยอ้างมีคุณวิเศษในการรักษาโรคต่างๆ ต่อมาฝ่ายหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งได้ซ่อนกล้อง เพื่อแอบถ่ายพฤติกรรมของเจ้าอาวาสไว้เป็นเป็นหลักฐาน พบขณะเจ้าอาวาสกำลังแสดงพฤติกรรมลวนลาม หญิงสาวผู้เสียหายอยู่นั้น มีพระหนุ่มซึ่งเป็นพระเลขาและลูกศิษย์ผู้ชายนั่งร่วมอยู่ด้วย โดยพระหนุ่มรูปดังกล่าวพยายามพูดแนะนำให้หญิงสาวยินยอมให้เจ้าอาวาสโอบกอดและล้วงจับของสงวนด้วย
เกี่ยวกับความเสื่อมของเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสอบถามกับพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ให้ความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เห็นว่าลูกศิษย์ออกมาปฏิเสธพัลวันว่าหลวงตารูปนี้เป็นอัลไซเมอร์ แต่คงฟังไม่ขึ้น เรื่องนี้ไม่ได้แย่แค่หลวงตารูปนี้ แต่พระหนุ่มซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่อยู่ข้างๆ ด้วย กลับไปสนับสนุนชี้แนะให้ฝ่ายหญิงเข้าไปให้หลวงตาทั้งล้วงทั้งกอดใกล้ๆ อ้างว่าหลวงตาเมตตาโบราณถึงบอกว่าไม่รู้ต้องไม่ชี้ พระหนุ่มไม่รู้หรือว่าการจับต้องกายหญิงนั้นผิด ถึงจะอ้างว่าเป็นการจับต้องโดยไม่มีความกำหนัด แม้จะอ้างเป็นการกระทำด้วยความเมตตา แต่เป็นเมตตาแบบอวิชชา ไม่ใช่เมตตาแบบปัญญา แล้วยิ่งพระหนุ่มไปชี้แนะให้หลวงตากระทำแบบนี้อีก ถือว่าหลวงตากับพระหนุ่มรูปนี้ได้ร่วมกันฆาตกรรมพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าแล้ว
พระพยอม กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เจ้าคณะจังหวัดและสำนักพุทธต้องออกมาดำเนินการได้แล้ว โดยเฉพาะพระหนุ่มรูปนั้น ด้วยที่ทำการยุยงส่งเสริม ซึ่งเกรงว่าจะรับพฤติกรรมแบบนี้ไปสืบทอดต่อ การจับต้องกายหญิงนั้นหากเป็นกรณีที่พระไปเห็นผู้หญิงตกน้ำแล้วกำลังจะจมน้ำแล้วพระไปช่วยไปดึงขึ้นมาจากน้ำ โดยไม่มีความกำหนัดแบบนั้นไม่ผิด แต่นี้ถูกเนื้อต้องตัวแล้วไปล้วงไปจับของลับของสงวนอีก เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ แก้ตัวไม่ขึ้น ผู้รู้หย่อมตำหนิติเตียน
พระพยอมกล่าวว่า อาตมาอยากฝากบอกเตือนพระหนุ่มคนรุ่นใหม่ว่าอะไรที่ไม่รู้จริงอย่าไปชี้แนะนำเขา ไม่รู้ก็อย่าไปชี้ไม่รู้ท่านบวชมากี่พรรษาถึงไม่รู้พระธรรมวินัย ไม่ศึกษานวโกวาทว่าภิกษุจับต้องกายหญิงเป็นสังฆาทิเสส เหตุการณ์พระสงฆ์มีอุบายไปหลอกไปจับของสงวนฝ่ายหญิงในลักษณะนี้ในอดีตก็เคยมีเกิดขึ้นมาเหมือนกัน แต่ยุคนี้มีอุปกรณ์มีเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถบันทึกหลักฐานได้อย่างชัดเจน