เพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย 20 คน เข้าร้องกระทรวงยุติธรรม หลังนำรถยนต์ไปแลกค้ำประกันเงินกู้จากเพจแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ส่งเงินต้นดอกจะไถ่รถคืน กลับถูกบริษัทบ่ายเบี่ยง พรุ่งนี้ (20 ส.ค.) ดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
วันนี้ (19 ส.ค.2565) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ พร้อมทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายกว่า 20 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม หลังถูกแก๊งหลอกปล่อยเงินกู้ในภาคตะวันออก โกงไม่คืนรถที่นำไปค้ำเงินกู้ไว้
หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า มีเหตุจำเป็นต้องนำรถไปค้ำประกัน เนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย และได้พบบริษัทเงินกู้นี้ในเฟซบุ๊ก เห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ มีผู้ที่เอารถไปค้ำประกันเงินกู้ไว้ และได้รับคืนจริง
นำรถไปค้ำประกันเงินกู้ 80,000 บาท บริษัทโอนเงินให้ 72,000 บาท หักดอกเบี้ย 8,000 บาท จากนั้นก็จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน เดือนละ 8,000 บาท เดือนล่าสุด ชำระดอกเบี้ยช้าไปเพียง 2 ชั่วโมง ทางบริษัทบอกให้จ่ายเงิน 4,500 บาท เพื่อซื้อสัญญาคืน ไม่เช่นนั้นรถจะหลุด
ผู้เสียหาย ระบุอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา หาเงินไปไถ่รถออกมาได้ครบจำนวน และมีการนัดส่งคืนรถในวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาทางบริษัท ก็บ่ายเบี่ยง ขอเลื่อนนัดคืนรถ มีทั้งเลื่อนแบบวันต่อวันไปเรื่อยๆ เลื่อนเป็นสัปดาห์ หรือบางครั้งก็เลื่อนไป 15 วัน
นอกจากนี้เวลาที่นัดส่งมอบรถกัน ก็จะนัดเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น โดยให้เอาไปส่งที่ที่ทำการบริษัทในพื้นที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี ส่วนสาเหตุที่บริษัทอ้างในการไม่ส่งคืนรถ ก็มีทั้งบอกว่าคนส่งรถไม่พอพนักงานติดโควิด ฝนตก น้ำท่วม
จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่รู้ว่ารถอยู่ที่ไหน ทางบริษัทไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าอยู่ในโกดัง อยู่กับนายทุนใหญ่ ก็ไม่แน่ใจว่ารถของเรายังอยู่กับบริษัทนี้จริงหรือไม่ ส่วนเพจของบริษัท ตอนนี้ก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ปกติ
คาดมีรถถูกจำนำไม่ได้คืน 100 คัน
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย ตอนนี้มีรถที่ถูกนำไปแล้วไม่คืนกว่า 100 คัน ในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งนี้ปัจจุบันมีการฉ้อโกงเกิดขึ้นหลายคดี จึงขอฝากกระทรวงยุติธรรมให้พิจารณาการเพิ่มอัตราโทษคดีฉ้อโกง เพราะกลุ่มมิจฉาชีพไม่เกรงกลัวกฎหมายข้อนี้ และเชี่ยวชาญในการหลบเลี่ยงกฎหมายด้วย
ส่ง “ดีเอสไอ” ลงพื้นที่พรุ่งนี้ (20 ส.ค.)
ขณะที่ว่าที่ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ได้ประสานไปยังยุติธรรมจังหวัด และจะให้เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่วันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.) เพื่อดำเนินการติดตามกับบริษัทดังกล่าวว่ามีเหตุจำเป็นอะไร จึงไม่ส่งมอบรถคืนตามกำหนดที่ระบุไว้ในสัญญา
การรับจำนำรถแล้วไม่ส่งคืน ถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานยักยอกทรัพย์ มีอัตราโทษไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงขอฝากไปยังบริษัทดังกล่าวว่าหากไม่คืนรถให้ผู้เสียหายจะต้องได้รับโทษอย่างแน่นอน