“ดราม่าพิมรี่พาย” ไม่จบสิ้น …สะเทือนไปทั่ว

เรียกได้ว่าเวลานี้ไม่มีใครไม่รู้จัก” พิมรี่พาย” แม่ค้าสาว หน้าคมเข้ม กับฝีปากการขายสุดฮาร์ดคอร์ เข้าถึงคนดูแบบสุดๆ และได้ผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์

“พิมรี่พาย” หรือชื่อจริง พิมรดาภรณ์  เบญจวัฒนะพัชร์  สาวใต้วัย 30 ปี  แต่เติบโตมาในกรุงเทพฯ 

และปีนี้  (2564) ถือว่าเป็นปีที่เธอโด่งดังสุดๆ เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปี “ พิมรี่พาย” ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านแม่เกิบ ได้ลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ โดยใช้เงินส่วนตัวของตัวเองไปเกือบครึ่งล้าน เพื่อให้ไฟฟ้าเข้าถึงหมู่บ้านฯซึ่งอยู่บนดอย  ท่ามกลางความทึ่งและเสียงชื่นชมของผู้คนไปทั่ว

 ก่อนจะเริ่มมีดราม่าหลังมีการแชร์เอกสารสรุปราคากลางงานก่อสร้าง การติดตั้งแผง”โซลาร์เซลล์ “พื้นที่ที่คล้ายกันแต่กลับมีค่าก่อสร้างกว่า 45 ล้านบาท จนทำให้ถูกนำมาเปรียบเทียบกัน

จากนั้นก็ตามมาด้วยดราม่าจากการขุดบ่อบาดาล ให้ชาวบ้านในจังหวัดยโสธร ที่มีข่าวออกมาว่าการขุดเจาะบาดาลไม่ได้ขออนุญาตตามขั้นตอน ส่วนราคาการขุดเจาะโดยรัฐบาลที่แตกต่างกันมาก จนถูกนำไปเปรียบเทียบนั้นก็ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของชั้นดินที่ถูกเจาะ จากนั้นพิมรี่พายได้ออกมาตอกกลับว่าที่ไม่ขุดลึกเพราะ ‘กลัวเจอนรก’ พร้อมทั้งแนะว่าอย่าตั้งข้อครหา ควรจะทำให้เห็นไปเลยน่าจะดีกว่า

กับการสร้างโรงพยาบาลสนาม ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เธอนั้นได้จัดหาเตียงจำนวน 50 เตียง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน พร้อมใช้งาน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทำให้โรงพยาบาลสนามของพิมรี่พายถูกนำไปเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลของรัฐเรื่องมาตรฐาน ทำให้ฝากฝั่งรัฐบาลออกมาเตือน ถึงเรื่องการนำไปเปรียบเทียบ

จนวันที่  18 พ.ค. เมื่อ Tony Woodsome หรือ นายทักษิณ ชินวัตร หรือลุงโทนี่  อดีตนายกฯ  กล่าวถึง  พิมรี่พาย  ในเสวนาใน CARE Clubhouse x CARE Talk #เป็นไงวัยรุ่น : ปลดล็อกยูนีคสกิลสู่ยุคใหม่ของวัยเยาวรุ่น กับ Tony Woodsome กรณีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในราชทัณฑ์ พาดพิงว่า “ถ้าตั้ง (รพ.สนาม) มันแพง ก็ไปขอ พิมรี่พาย ตั้งให้ พอตั้งแล้ว ก็เอาคนออกมาตรงนั้นซะ และไปทยอยฉีดวัคซีน”

ทำให้ พิมรี่พาย ออกมาตอบโต้ว่า “ท่านอยู่ข้างนอกประเทศ ท่านจะพูดอะไรก็ได้ แต่คนในประเทศจะซวยเอา ได้โปรดอย่าเอาดิฉันไปเกี่ยวข้อง ดิฉันยังอยากทำบุญต่อ ดิฉันยังอยากอยู่ในประเทศนี้อยู่  ยังไม่อยากไปตายต่างประเทศ” ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้ ก็เกิดกระแสตีกลับจากประเด็นทางการเมืองที่รุนแรง

ทางด้าน หมอวรงค์ หรือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ได้ชื่นชม “ พิมรี่พาย “ว่า  มีความกล้าหาญ ใช้ความจริงบนเหตุและผลสวนกลับ “ลุงโทนี่ “

 แต่แล้วเกินคาด แทนที่ “พิมรี่พาย” จะปลื้ม  ในเวลาต่อมาระหว่างที่ “พิมรี่พาย” ไลฟ์ขายของได้กราบขอโทษ “ทักษิณ ชินวัตร “ว่าตนเป็นเด็ก อาจมีพูดจาปากไวไปบ้าง”

 ได้ฟาดกลับ “หมอ ส.ส.สอบตก” ท่านหนึ่ง ว่า   ขอขอบพระคุณ หมอ ส.ส.ท่านหนึ่งที่สอบตกที่ออกมาชมตนว่า พิมรี่พาย กล้าหาญที่จะบอก ทักษิณ แบบตรงๆ ดิฉันจะกล้าหาญให้ท่านดูค่ะ เริ่มเลยนะคะ.. ท่านเป็นหมอจริงหรือเปล่าคะ หรือ ท่านเรียนมาเป็นหมอแต่แก่ไปเป็นหมา..ท่านเลียดิฉันเก่งมาก ทำไมตอนที่ดิฉันออกไปช่วยชาวบ้านกลับไม่เคยชม แถมไปจับผิด

ด้านหมอวรงค์  ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้กลับว่า  ผมเข้าใจ เป็นหมอ เจอคนมาเยอะ บางคนคุ้มดี คุ้มร้าย บางคนหลอนว่ามีคนจ้องจับผิด แถมทิ้งท้าย อย่าลืมฉีดวัคซีนน่ะ

ขณะที่นายสมยศ  พฤกษาเกษมสุข  ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง  ม.112 ได้ฟาด “พิมรี่พาย” ที่ไปแตะ”ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร  ว่า  ภาพลักษณ์คนดีมีไว้เพื่อขาย ไม่แตะปัญหาเชิงโครงสร้าง รักษาทุนนิยมสามานย์ บรรลุเป้าหมายแสวงหากำไรตัวเอง ซัดอ่อนด้อย อหังการ

แต่ล่าสุด “พิมรี่พาย “ งานเข้าซะแล้ว  เมื่อ “สนธิญา สวัสดี”  ได้โพสต์ถึง “ พิม รี่ พาย” ว่า

1.คุณบอกว่านำของไปบริจาค2แสนกว่าบาทแต่หน่วยงานไม่ยอมรับ

1.1.หน่วยงานใหนครับ เอกชน หรือ ราชการ (จริงหรือเท็จ)

2.ได้จ่ายภาษีเงินได้ที่ผ่านมาหรื่อไม่ ในการค้าขายของคุณ

3.ที่บอกว่าถูกขมขู่จริงหรื่อเท็จ (หรื่อพูดสนุกปากไปอย่างเดียว

เมื่อคุณ ขอโทษ ดร.ทักษิณ ชินวัตรไปแล้ว คุณต้องขอโทษคนไทยด้วยหากตรงใหนไม่จริง

ต้องรอดูกันต่อไปว่า “ดราม่าพิมรี่พาย” จะจบลงอย่างไร..หรือเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง