วันศุกร์ ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
อุตุฯเตือนมรสุมส่งผลให้ทั่วไทย มีฝนตกหนัก-ลมแรง ด้านเมืองกรุง น้ำท่วมหลายจุด หลังจากพายุฝนกระหน่ำตลอดคืนที่ผ่านมา ผู้ว่าฯ กทม.รุดลงพื้นที่สำรวจ-ช่วยเหลือ วอนประชาชนรีบกลับบ้านหากไม่มีธุระ คาดฝนยังตกหนักอีก 3-4วัน ส่วนโคราช ฝนถล่ม ต้นไม้ใหญ่โค่นเสาไฟล้ม เร่งระดมเจ้าหน้าที่แก้ไข
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่5 เรื่อง “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 21–24 กรกฎาคม 2565)”ว่าร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑลภาคตะวันออก และภาคใต้
อุตุฯเตือนให้ระวังน้ำท่วม-น้ำป่า
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนี้ ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษและอุบลราชธานี
ภาคกลาง นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด และภาคใต้ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
คลื่นลมแรงชาวเรือต้องระมัดระวัง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
กทม.น้ำท่วมถนน14สายรอระบาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฝนตกอย่างหนักในหลายพื้นที่ทั่ว กทม.ในช่วงค่ำวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุด โดยศูนย์ระบบป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานครรายงานว่าน้ำท่วมขังในถนนสายหลัก 14แห่ง ดังนี้ 1.ถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกเทียมร่วมมิตร เขตดินแดง 2.ถนนประชาสงเคราะห์ บริเวณหอนาฬิกา เขตดินแดง 3.ถนนประชาสุข บริเวณปั๊มน้ำมัน-ซ.อินทามระ45เขตดินแดง 4.ถนนลาดพร้าว บริเวณคลองเจ้าคุณสิงห์-ซอยลาดพร้าว 122 เขตวังทองหลาง 5.ถนนพัฒนาการ บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย เขตสะพานสูง 6.ถนนนวมินทร์ บริเวณซอยนวมินทร์105 เขตบึงกุ่ม
7.ถนนสุขุมวิท บริเวณสุขุมวิท39-ซอยพร้อมศรี เขตวัฒนา 8.ถนนพระราม4 บริเวณสุขุมวิท26-ซอยแสนสบาย เขตคลองเตย 9.ถนนสุขุมวิท บริเวณสุขุมวิท71-คลองบางมะเขือ เขตพระโขนง 10.ถนนอโศกมนตรี บริเวณซอยชิโนทัย-สุขุมวิท23 เขตวัฒนา 11.ถนนจันทน์ บริเวณปากซอยรัชดา30 เขตสาทร 12.ถนนจันทน์ บริเวณซอยบำเพ็ญกุศล-ไปรษณีย์ยานนาวา เขตสาทร 13.ถนนเซนต์หลุยส์ บริเวณถนนจันทน์-ซอยบำเพ็ญกุศล เขตสาทร และ 14.ถนนอโศกมนตรี บริเวณปากซอย-มศว.เขตวัฒนา
ม.รามคำแหงปิด1วันเหตุน้ำท่วม
ด้านเพจเฟซบุ๊กPR Ramkhamhaeng University ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้โพสต์ภาพน้ำท่วมภายในมหาวิทยาลัยดังกล่าว พร้อมกับแจ้งประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาทราบเรื่องการงดบรรยาย โดยระบุว่า เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทำให้การจราจรติดขัดและมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ทั้งภายนอกและภายในมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยจึงของดการบรรยายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 เป็นเวลา 1 วัน (ทั้งที่ ม.รามฯ หัวหมาก และ ม.รามฯ 2 วิทยาเขตบางนา) จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน
ผู้ว่าฯกทม.นั่งวินออกสำรวจพื้นที่
ช่วงเช้าวันที่ 21 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ได้ลงพื้นที่ถนนสุขุมวิท บริเวณปากซอยทองหล่อ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากฝนตกหนักตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ยังมีน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ เช่น ถนนสุขุมวิท เอกมัย และในซอยย่อย ยังมีน้ำท่วมขัง ซอยทองหล่อ รถยนต์สัญจรผ่านไปมาได้ยาก ศรีวรา ห้วยขวาง ประชาสงเคราะห์ ยังหนัก แต่บางจุดแห้งแล้ว คลองหลักยังแน่นน้ำระบายไม่ทัน
ระหว่างนั้นนายชัชชาติ ได้สอบถามแม่ค้าจากคลองเตยซึ่งให้ข้อมูลว่าในช่วงเช้าน้ำยังท่วมขัง ต้องเตรียมตัวให้ดีในการเดินทาง ทั้งนี้ นายชัชชาติ ระบุว่า อาจจะมีปัญหาเรื่องการเก็บขยะที่ล่าช้าออกไป เพราะรถขยะวิ่งไม่ได้ในหลายจุดจากนั้นได้ใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้าง ออกสำรวจบริเวณถนนสุขุมวิทขาออก พบว่าในซอยย่อยยังมีน้ำท่วมขังหลายจุด มีปัญหามีคนตกค้างไม่มีรถโดยสารกลับ โดยเขตวัฒนา น่าจะเป็นพื้นที่ซึ่งฝนตกหนักที่สุด วัดได้ประมาณ 140 มิลลิเมตร อย่างไรก็ดี ตนก็จะลุยเต็มที่
‘ชัชชาติ’รับกทม.ยังมีน้ำท่วมขัง
ที่รัฐสภา นายชัชชาติ กล่าวยอมรับว่า คืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนักสุดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม.ขณะนี้น้ำยังท่วมขังในหลายพื้นที่ เช่น เขตวัฒนา พระโขนง บางนา ลาดกระบัง สะพานสูง สุขุมวิท พัฒนาการ ลาดพร้าว รามคำแหง เป็นต้น ทำให้น้ำในคลองต่างๆ โดยเฉพาะคลองลาดพร้าวไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทัน เนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนยังไม่แล้วเสร็จ
“ขณะที่คลองคลองแสนแสบปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 1 เมตรภายใน 2 ชั่วโมง ทุกหน่วยงานพยายามเร่งระบายน้ำ แต่เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุน ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากทำให้ระดับน้ำลดลงช้า บางพื้นที่น้ำสูงกว่าประตูระบายน้ำ ส่วนจุดที่ให้นักโทษมาช่วยลอกท่อ จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป”ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวและว่า ยังมีปัญหาเรื่องขยะ โดยเฉพาะขยะที่รอให้รถมาจัดเก็บ เมื่อฝนตกก็พัดพาลงไปในคลอง จึงขอให้ประชาชนร่วมจัดการขยะหน้าบ้านตนเองด้วย
เร่งหาทางผันน้ำออกลดท่วมขัง
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะระบายน้ำบางส่วนออกไปทางผันบางซื่อได้หรือไม่ และนอกจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว ก็ยังพบปัญหาประชาชนตกค้างอยู่ตามถนน ไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ละเขตต้องเตรียมรถคอยรับส่งตามซอยต่างๆ และเพิ่มรถโดยสารประจำทางมาเสริมการขาดระยะ รวมถึงจะประสานกองทัพ ขอรถทหารมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนกลับบ้าน รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ หากจะมาร่วมมือกันก็ถือเป็นเรื่องดี พร้อมแนะนำประชาชนหากไม่มีธุระขอให้รีบกลับบ้าน เพราะคาดว่าฝนจะตกหนักซ้ำเติมสถานการณ์อีก โดยจะเป็นอย่างนี้อีก 3-4 วัน
ยันหน้าที่พ่อเมืองคงต้องไปทุกที่
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าต้องการให้ผู้ว่าฯ กทม.ลงพื้นที่น้ำท่วมทุกจุดนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า แม้ว่าประชาชนไม่เรียกร้องก็เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องทำ ตนไม่รู้สึกกดดัน เพราะเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว อย่างไรก็ดี แม้จะไม่ได้ลงไปทุกจุดด้วยตนเองก็มีทีมงานรวมถึงผอ.เขตต่างๆ ที่ลงพื้นที่ดูแลอยู่แล้ว เมื่อคืนได้ลงพื้นที่จนถึงตี 2 และตื่นตี 5 เพื่อติดตามสถานการณ์ต่ออีก เพราะนอนไม่หลับ เป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหลายพื้นที่ยอมรับว่าหนัก
หมู่บ้านพฤกษานนทบุรีจมบาดาล
ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศน้ำท่วมขังที่หมู่บ้านพฤกษา 3 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ภายหลังฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักช่วงคืนที่ผ่านมา เป็นเวลานานเกือบ 3ชั่วโมง ว่า ได้ส่งผลให้น้ำท่วมพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว โดยมีน้ำท่วมขังทั่วบริเวณ ท่อน้ำระบายน้ำไม่ทัน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ โดยในช่วงเช้าน้ำก็ยังคงท่วมสูงอยู่ประมาณ 10-20 เซนติเมตร คาดว่าหากยังมีฝนตกต่อเนื่องเช่นคืนที่ผ่านมา น้ำจะท่วมเพิ่มขึ้นอีก 5-15 เซนติเมตร หรือมากกว่านั้นอย่างแน่นอน
พายุถล่มครบุรีต้นไม้-เสาไฟโค่น
อีกด้านหนึ่ง นายอมรวัฒน์โสปกระโทก นายกอบต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเกิดพายุฝนพัดถล่มอย่างรุนแรงช่วงกลางดึกวันที่ 20กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง และต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นหลายจุด จนกีดขวางการจราจรและทับสายไฟฟ้า ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงเร่งนำเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าช่วยเหลือ ตัดต้นไม้และเคลื่อนย้ายต้นไม้ที่คักโค่นกีดขวางการจราจร และแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าริมถนนห้วยทราย—ระเข้หิน ดึงเสาไฟฟ้า 8 ต้นที่โค่นเสียหาย เพื่อเชื่อมต่อซ่อมแซมให้สามารถกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อีกครั้ง
คาดการณ์ฝนยังตกหนักต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่าริมถนนสายเดียวกันนี้ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นเป็นช่วงๆ อีกกว่า 10 ต้น หลังจากลมพายุพัดแรงได้พัดถล่มพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกันเข้าแก้ไขปัญหา โดยเคลื่อนย้ายต้นไม้ออกจากถนน และตัดแต่งกิ่งก้านต้นไม้ที่อยู่สองข้างทางตลอดวัน อย่างไรก็ดี ทางสถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา พยากรณ์ลักษณะอากาศ ว่าจะมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนเตรียมรับมือ โดยทางเจ้าหน้าที่พร้อมจะเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตลอด24ชั่วโมง