เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงรายงานแผนและผลการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศและกองทัพบก สนับสนุนด้านอากาศยานและกำลังพล ได้มีการจัดตั้ง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค โดยไม่มีวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถึงแม้ว่าในช่วงนี้จะอยู่ในช่วงฤดูฝน แต่ในหลายพื้นที่ยังมีฝนตกน้อย โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีความต้องการน้ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้ำในระบบชลประทานบางพื้นที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งกรมฝนหลวงและการบินเกษตรพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชนอย่างเต็มที่ โดยผลจากการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.ลำพูน นครสวรรค์ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำวังร่มเกล้า และบึงบอระเพ็ด
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ จากผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ พบว่า ทั้ง 13 หน่วยปฏิบัติการยังไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้เนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไขของสภาพอากาศ โดยมี 2 หน่วยปฏิบัติการ ที่ไม่สามารถขึ้นบินปฏิบัติการได้ คือ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ขอนแก่น เนื่องจากสนามบินติดภารกิจ และ หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุรินทร์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
อย่างไรก็ตาม อีก 11 หน่วยปฏิบัติการ จะยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงและเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชนสามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100