เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 เมษายน ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองยโสธร พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผบก.ภ.จว.ยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร, พ.ต.ท.วรวุทธิ์ ท่านมุข รองผกก.สส.สภ.เมืองยโสธร ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอัจฉริยะ หรือบัส นัชฎา อายุ 34 ปี ชาวอ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า โนวาแดช สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และอื่นๆ รวม 6 รายการ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยโสธร ที่ จ.41/2565 ลงวันที่ 19 เม.ย. 65 ในข้อหาทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักเลขที่ 157 หมู่ 11 บ้านชะโด ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน เวลา 16.20 น. นายอัจฉริยะได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า โนวาแดช ไปพบนางดวงพร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย อายุ 41 ปี ที่บ้านสวน เเละนายอัจฉริยะ ได้ขู่ฆ่า แม่และบุตรของนางดวงพร หากไม่ทำตามที่ตนบอก จากนั้นนายอัจฉริยะ ได้กอดปล้ำพยายามที่จะข่มขืน แต่นางดวงพร ขัดขืนจึงได้เกิดการต่อสู้กันทำให้นางดวงพร ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือด้านขวา ระหว่างนั้นนางอัมพร แม่ของผู้เสียหาย ได้เข้ามาช่วยเหลือ นายอัจฉริยะจึงได้หลบหนีไป หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้แกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงและตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุรายนี้ขับรถผ่านจนสามารถตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวพักอยู่ที่บ้านพักในจังหวัดร้อยเอ็ด
เบื้องต้นนายอัจฉริยะ รับสารภาพว่าตนจะไปหาเพื่อนที่อยู่ในพื้นที่ ต.เดิด อ.เมืองยโสธร แต่เมื่อใกล้ถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์มีปัญหาสตาร์ทไม่ติด กระทั่งเข็นรถมาจอดอยู่หน้าบ้านสวนผู้เสียหายและได้เข้าไปขอน้ำดื่มกิน ซึ่งขณะนั้นตนยอมรับว่ามีอาการมึนเมาสุราและเห็นผู้เสียหายเป็นผู้หญิงจึงเกิดมีอารมณ์ จึงตัดสินใจเดินตามไปยังจุดเกิดเหตุจากนั้นก็ลงมือ กระทั่งมีการต่อสู้เกิดขึ้น หลังจากนั้นด้วยความตกใจตนจึงวิ่งไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ซึ่งขณะนั้นรถได้สตาร์ทติดจึงขับหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตามนายอัจฉริยะ ยังบ่นว่ามีอาการน้อยใจ สังคมไม่ยอมรับเนื่องจากเคยถูกจำคุกมาแล้ว 10 ปี ในข้อหาเจตนาฆ่าผู้อื่น, อนาจาร, ทำร้ายร่างกาย, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เสพยาเสพติด ที่จ.ร้อยเอ็ด และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ 3 เดือน
ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอัจฉริยะ ผู้ต้องหาไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะทำแผนได้มีสามีของผู้เสียหายเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา โดยตำรวจได้เข้าห้ามมิให้มีการทำร้ายร่างกายกัน กระทั่งทำแผนเสร็จจึงนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์ออกจากพื้นที่เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่