นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อประจำวันพุธที่ 15 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 13,798 ราย ติดเชื้อในประเทศ 13,325 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 22 รายและติดเชื้อจากเรือนจำหรือสถานที่ต้องขัง 451 ราย ขณะที่รักษาตัวอยู่ 128,546 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลหลัก 41,183 รายรักษาตัวใน โรงพยาบาลสนามและสถานที่อื่น 87,363 ราย อาการหนัก 3,994 รายใส่เครื่องช่วยหายใจ 806 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 144 คนรวมเสียชีวิตสะสม 14,765 คน
ขณะที่รายงานการฉีดวัคซีนแล้ว 41,647,101 โดส ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 สะสมจำนวน 27,769,095 ราย คิดเป็นร้อยละ 38.5 ของประชากร ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สะสมจำนวน 13,260,456 ราย คิดเป็นร้อยละ 18.4 ของจำนวนประชากร และฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 สะสมจำนวน 617,550 ราย
ส่วนรายงานผู้เสียชีวิตทั้งหมด 144 คนแบ่งเป็นชาย 7 คนหญิง 67 คนสัญชาติไทย 144 คนเมียนมาร์ 3 คนกัมพูชา 2 คนอังกฤษ 1 คนอายุระหว่าง 22 ถึง 96 ปี โดยแบ่งเป็นมีอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 106 คน อายุต่ำกว่า 60 ปีมีโรคประจำตัวเรื้อรังจำนวน 30 คน ไม่มีโรคเรื้อรัง 3 คนพบเป็นหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต 1 คนในจังหวัดนราธิวาส ขณะที่รายงานการเสียชีวิตที่บ้านมีจำนวน 2 คนที่จังหวัดสตูลและกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง
ขณะที่หากแบ่งเป็นรายจังหวัดจะพบว่าผู้เสียชีวิตในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีจำนวน 43 คนสมุทรปราการ 20 คน ชลบุรี 8 คน สมุทรสาครและนนทบุรีจังหวัดละ 5 คน นครปฐม สระบุรี ตาก จังหวัดละ 4 คน นครราชสีมา อุตรดิตถ์นราธิวาส สมุทรสงคราม นครนายก ลพบุรีฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 3 คน ขอนแก่น- อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยาประจวบคีรีขันธ์จังหวัดละ 2 คน อุดรธานี ยโสธร บึงกาฬ ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชรระนอง สตูล ยะลา สุราษฎร์ธานี สิงห์บุรี ระยองปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด จังหวัดละ 1 คน
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังระบุอีกว่า แม้ว่าขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะมีแนวโน้มที่ลดลงแต่การ์ดก็ห้ามตก เนื่องจากในบางพื้นที่ยังคงมีอัตราการติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างเช่นการติดเชื้อในเรือนจำหรือสถานที่ต้องขัง จังหวัดอื่นอีก 48 จังหวัด ขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มที่จะลดลง แต่เมื่อพบว่าหากแยกย่อยตามพื้นที่ปริมณฑลจะเห็นได้ว่าปทุมธานี และสมุทรปราการ ยังทรงตัว โดยหากดูจากการถ่ายภาพพรอตกราฟ โดยพบการติดเชื้ออยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด 77 จังหวัด ร้อยละ 61 และพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลติดเชื้อร้อยละ 39 จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆร่วมมือกัน ทำให้แนวโน้มลดลง เพื่อทำให้ภาพรวมของทั้งประเทศนั้นลดลง นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่มีความจำเป็นให้ลดการเดินทางให้มากที่สุด ขณะที่มาตรการองค์กร covid free setting ด้วยการคัดกรองผ่าน ATK จะต้องใส่ให้เต็มสตรีม