ภูมิภาค
“สนธยา” พาเข้าวัดเปิดสิ่งอัศจรรย์ เทวดา พญานาค ร่วมพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัตตฉัตรมงคล
วันอาทิตย์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564, 14.41 น.
คลิกที่นี่
หลังจากที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว สนธยา พาเข้าวัด ฟังธรรม จึงถือโอกาส เดินทางไปที่ วัดกลางบ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ด้านทิศตะวันตก ถนนอรุณประเสริฐ(อำนาจเจริญ –ยโสธร) ประมาณ 19 กิโลเมตร ถึงสี่แยกไฟแดง(แยกกุญชร) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายรอง(น้ำปลีก – หัวตะพาน) ราวๆ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงหมู่บ้านน้ำปลีก และเป็นที่ตั้งวัดกลางน้ำปลีก มีเนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี มีพระครูวรธรรมนุวัตร อายุ 80 ปี 60 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก ปกครองพระสงฆ์ 5 รูป ถือว่าเป็นวัดขนาดเล็ก สังกัดมหานิกาย
พระครูวรธรรมนุวัตร อายุ 80 ปี เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ เล่าว่า ได้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อค้นคว้าศึกษาพระธรรมวินัย ระหว่างที่จำพรรษาอยู่ที่ถ้ำแห่งหนึ่งบริเวณรอยต่อประเทศพม่า กับ จ.กาญจนบุรี ประเทศไทย ต่อมาพุทธศาสนิกชนชาวบ้านน้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ นิมนต์มาที่วัดกลางบ้านน้ำปลีก ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ไม่มีพระจำพรรษา ก็เลยเดินทางมาอยู่ที่วัดกลางน้ำปลีก แรกๆไม่มีอะไรเลย ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งทุกวันนี้ เป็นเวลา กว่า 40 ปี ถือว่า เป็นศูนย์รวมทางจิตใจที่ยึดเหนี่ยวทางใจของชาวน้ำปลีกและใกล้เคียงรวมถึงยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญอีกด้วย
พระครูวรธรรมนุวัตร เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก กล่าวถึงเหตุที่ต้องสร้างเจดีย์ว่า ฝันว่า ได้ปรากฏเห็นภาพเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ลอยเหนืออุโบสถ ก็นำเรื่องราวความฝันไปปรึกษากับกรรมการวัดและพุทธศาสนิกชนบ้านน้ำปลีก จึงตกลงว่า ให้ก่อสร้างพุทธมหาเจดีย์สิตตฉัตรมหามงคล แบบพุทธคยาประยุคกับเจดีย์ในปัจจุบัน จึงได้ปรากฏเป็นรูปร่างเจดีย์อย่างที่เห็น โดยใช้เงินงบประมาณจากพุทธศาสนิกชนบ้านน้ำปลีกและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค จำนวน 35 ล้านบาท มีความสูงจากพื้นถึงยอด ประมาณ 47 เมตร ฐานกว้างราวๆ 108 เมตร วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 15 ม.ค.46 ก่อสร้างแล้วเสร็จในปีต่อมา ซึ่งมีการจัดงานพิธีพุทธาภิเษกเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 19 ม.ค.58 ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก สมโภชพุมธมหาเจดีย์สิตตฉัตรมหามงคล ขึ้น ช่วงกลางคืน ระหว่างพิธีพุทธาภิเษก มีพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานรายหนึ่งได้บักทึกภาพไว้ เป็นภาพพญานาค ลอยมาจากท้องฟ้าพาดรอบเจดีย์ พร้อมมีภาพสีรุ้งหลากหลายพาดเป็นแนวยาวจากฟ้าสู่เจดีย์ที่กำลังทำพิธีพุทธาภิเษก เชื่อว่า เป็นเหล่าเทพเทวดาบนสรวงสวรรค์และญาณพญานาคมาเข้าร่วมพิธีมหามงคลครั้งนี้
พระครูวรธรรมนุวัตร เจ้าอาวาสวัดกลางบ้านน้ำปลีก เทศนาตอนหนึ่งว่าวิบากกรรมของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันไป บางคนป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนตกงานบ่อย บางคนลำบากมาก หากินไม่คล่อง บางคนลูกเกเร วิบากกรรมนี้ ตามหาหลายภพหลายชาติ ซึ่งมีส่วนทำให้เราเกิดมาแตกต่างกัน แต่อย่าสิ้นหวัง หนทางในการบรรเทาวิบากกรรมนั้นมี ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น เวลาที่เราทำบุญหรือทำความดีทุกครั้ง นอกจากบุญที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น การใส่บาตร การถือศีล ฯลฯ แล้ว การพูดคุย ช่วยให้ผู้อื่นสบายใจ การสนทนาธรรม การให้ธรรมทาน การร่วมบริจาคหนังสือธรรมะ การชี้แนะแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิตให้กับผู้สิ้นหวัง การทำความสะอาดห้องพระ การถวายน้ำเปล่าเพียง 1 แก้ว การร่วมอนุโมทนากับการทำความดีของผู้อื่น โดยการใช้จิตน้อมไปทางบุญคุณ การกวาดใบไม้ ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือของส่วนรวม การดูแลคนแก่ เด็ก การที่เรามีจิตใจดีหรือตั้งใจดี ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ล้วนเป็นกุศล และเป็นบุญทั้งสิ้น.
คลิกที่นี่