วันนี้ (11 พ.ย.64) กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งเอาไว้ภายในร้านค้าขายของชำแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองยโสธรสามารถบันทึกภาพของหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิงไม่ทราบหมายเลขทะเบียนและยี่ห้อเข้าไปจอดบริเวณหน้าร้านค้าก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาไม้ใกล้ๆกับเจ้าของร้านค้าซึ่งเป็นผู้สูงอายุนั่งอยู่และขอซื้อสุราขาว 1 ขวด เบียร์ 6 ขวด และน้ำแข็งอีก 10 บาท จากนั้นเจ้าของร้านจึงไปหยิบสุราขาวออกมาให้ ซึ่งในระหว่างที่เจ้าของร้านเข้าไปหยิบสุราในร้านหญิงคนดังกล่าวมีท่าทีมองซ้ายมองขวาและยื่นมือไปหยิบซองบุหรี่ที่วางอยู่ใกล้ๆตนเองคล้ายๆกับพยายามค้นหาทรัพย์สินและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีญาติของเจ้าของร้านเดินเข้ามาในร้านและเดินเข้าไปหยิบเบียร์ จำนวน 6 ขวด ออกไปวางไว้ให้ ส่วนเจ้าของร้านได้เดินไปตักน้ำแข็งใส่ถุงให้ ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้มีลูกค้าเดินเข้ามาในร้านเพิ่มอีกคนจึงทำให้หญิงคนดังกล่าวเห็นท่าไม่ดีจึงลุกจากที่นั่งเดินออกไปหน้าร้านพักหนึ่งก่อนกลับเข้ามาหยิบเอาถุงบรรจุเบียร์ 6 ขวด สุราขาว 1 ขวด และบุหรี่ 1 ซอง ขึ้นรถจักรยายนต์หลบหนีไปทันที โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 9 นาฬิกา ของวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งเลขที่ 53-55 ถนนศรีบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และได้พบกับนางรัชนี ศรีวิเศษ อายุ 71 ปี และ นางโมลี สังฆะรมณ์ อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายของชำที่เกิดเหตุ โดยนางรัชนี ศรีวิเศษ ญาติของ นางโมลี สังฆะรมณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิงไม่ติดแผ่นป้านทะเบียนเข้าไปขอซื้อสุราขาว 1 ขวด เบียร์ลีโอ 6 ขวด และน้ำแข็งอีก 10 บาท กับนางโมลี สังฆะรมณ์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ร้านเพียงลำพังคนเดียว นางโมลีจึงเดินเข้าไปหยิบสุราขาวออกมาให้ 1 ขวด และเป็นจังหวะที่ตนเข้าไปหานางโมลี ที่ร้านพอดี ตนจึงเดินไปหยิบเอาเบียร์ 6 ขวด ใส่ถุงวางไว้ให้ใกล้กันและนางโมลี จึงเดินไปตักน้ำแข็งใส่ถุงให้ จากนั้นหญิงคนดังกล่าวขอบุหรี่เพิ่มอีก 1 ซอง และบอกกับนางโมลี ว่าเงินไม่พอจ่ายเดี๋ยวตนจะเอามาจ่ายในภายหลังโดยอ้างว่าทำงานก่อสร้างอยู่ใกล้ๆกับร้านค้านี่เองโดยหญิงคนดังกล่าวได้เดินมาหยิบเอาถุงเบียร์สุราและบุหรี่ มูลค่ากว่า 600 บาท รีบขึ้นขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที แต่พอตนหันไปสอบถาม นางโมลี เจ้าของร้านว่ารู้จักกันหรือไม่ นางโมลี บอกว่าไม่รู้จักกันมาก่อน ตนรู้สึกแปลกใจจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปดูว่ามีคนงานก่อสร้างทำงานอยู่ในละแวกร้านค้าหรือไม่ แต่ก็ไม่มีและไม่พบตัวหญิงคนดังกล่าว รออยู่ทั้งวันก็ไม่เห็นกลับมาจึงมั่นใจว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน และจากการสอบถามร้านค้าต่างๆในเขตเทศบาลเมืองยโสธรก็พบว่ามีร้านค้าหลายร้านที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหญิงคนเดียวกันที่ตระเวนก่อเหตุโดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้สูงอายุที่อยู่ร้านคนเดียว ซึ่งหลังจากนี้ตนจะได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ติดตามจับกุมตัวหญิงคนดังกล่าวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปก่อนที่จะไปตระเวนก่อเหตุกับคนอื่นอีก