วันที่ 7 พ.ย.65 ศูนย์วิทยุ 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดยโสธรได้รับแจ้งว่า มีเหตุไฟไหม้บ้านของชาวบ้านที่บ้านคำแดง ตำบลเดิด อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร จึงได้แจ้งให้รถดับเพลิงของเทศบาลตำบลเดิด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงเข้าไปช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้าน
ในที่เกิดเหตุพบว่า เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านอย่างรุนแรงท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดและท่ามกลางความแตกตื่นตกใจกลัวของชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณใกล้เคียง เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่กลางชุมชนบริเวณรอบข้างมีทั้งร้านค้า อู่ซ่อมรถและบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกอยู่ติดกันอีกจำนวนหลายหลัง ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้สภาพเก่าจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้เปลวเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเปลวเพลิงก็ลุกท่วมบ้านทั้งหลังกว่าที่รถดับเพลิงจะเดินทางไปถึง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องช่วยกันเร่งฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้บ้านโดยต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัดแต่ก็ทำให้เปลวเพลิงลุกไหม้บ้านจนได้รับความเสียหายทั้งหลัง แต่ก็ยังโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ต้องระดมรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงและจากหน่วยทหารกรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทรเดชา จังหวัดยโสธร รวมกว่า 4 คัน เข้าระงับเหตุ โดยขณะเกิดเหตุเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
จากการสอบถาม นายชานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 10 บ้านคำแดง ตำบลเดิด อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนพักอาศัยที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงลำพังคนเดียว ก่อนเกิดเหตุตนได้ชาร์ทลำโพงบลูทูชทิ้งเอาไว้บริเวณบ้านชั้น 2 จากนั้นจึงออกไปกรีดยางพาราที่สวนยางจนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปแจ้งว่าไฟไหม้บ้านตนจึงกลับเข้ามาก็พบว่าเปลวเพลิงได้ลุกท่วมบ้านแล้วโดยที่ไม่สามารถที่จะเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้านออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งในบ้านมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านก็ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดไม่เหลือทรัพย์สินอะไรอีกเลย
ขณะที่ชาวบ้านใกล้เคียงที่เห็นเหตุการณ์แจ้งว่าก่อนเกิดเหตุไม่มีใคอยู่ในบ้านจนกระทั่งได้ยินเสียงดังเปาะแปะเหมือนกับไฟไหม้ก่อนที่จะเห็นเปลวเพลิงลุกลามขึ้นจากบริเวณบ้านชั้น 2 จากนั้นก็ได้ลุกลามและลุกไหม้ตัวบ้านอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ก่อนที่จะมีคนโทรศัพท์แจ้งรถดับเพลิงเข้าไปช่วยกันฉีดน้ำดับไฟเอาไว้ได้ทันเวลาก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกลามไปข้างเคียงอีก